ทำไมต้องมีงานอาสาสมัคร Student Volunteer
ปัจจุบันมูลนิธิยุวพัฒน์มีนักเรียนทุนมากกว่า 8,000 คน การที่จะทำให้นักเรียนทุนทุกคนสามารถเรียนจนจบชั้น ม.6 และ ปวช.3 ได้นั้น มูลนิธิฯ ต้องทำงานประคับประคองนักเรียนควบคู่กันไปด้วย โดยการติดตามการเรียน การให้กำลังใจ สร้างความเข้าใจเรื่องการรับทุนการศึกษา เพื่อรักษาสิทธิในการรับทุนในแต่ละภาคเรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนชวนน้องคุยสอบถามความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน จึงเปิดรับอาสาสมัคร “Student Volunteer” เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษามาทำงานอาสาเพื่อติดตามนักเรียนทุน โดยทำหน้าที่ติดตาม ชวนคุย ให้ข้อมูลเรื่องทุนการศึกษา และเขียนตอบจดหมายให้กำลังใจ แก่นักเรียนทุนในระดับสายสามัญ (ม.1 – ม.6) อายุระหว่าง 13 – 18 ปี โดยครอบคลุมข้อมูลพื้นฐาน ประเด็นดังต่อไปนี้
- ชวนน้องคุยเรื่องความเป็นอยู่ ชีวิตประจำวัน งานอดิเรก ความชอบ
- ชวนน้องทบทวนความเข้าใจเรื่องทุนการศึกษา ได้แก่ จำนวนปีที่ได้รับทุน, เอกสารที่ต้องส่งเพื่อให้ได้รับเงินทุนทุกภาคเรียน, การรับทุนต่อหลังจากจบชั้น ม.3
- ชวนน้องคุยเรื่องการเลือกเรียนต่อ สายสามัญ สายอาชีพ ต้องทำอย่างไร เพื่อให้น้องนักเรียนทุนมองเห็นความสนใจและทิศทางในการเรียนต่อของตนเอง
- เชิญชวนน้องนักเรียนทุน เข้าเป็นสมาชิกช่องทางสื่อสารของมูลนิธิฯ ได้แก่ เฟซบุ๊กกลุ่มปิด นักเรียนทุนยุวพัฒน์, ไลน์ (Line), เพจ Facebook มูลนิธิยุวพัฒน์ และ สมัครเป็นสมาชิกระบบทุนการศึกษาออนไลน์
บรรยากาศการถอดบทเรียนของน้องๆ Student Volunteer อาสาติดตามนักเรียนทุน
ตั้งแต่เดือนเมษายน - เดือนมิถุนายน งานอาสาครั้งนี้มีน้องๆ นักเรียน นักศึกษา สมัครและผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาทำงานอาสากันหลายคน มีน้องๆ บางส่วนได้ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว บางส่วนอยากจะทำงานอาสาต่อไปอีก น้องๆ บอกกับเราว่า ตอนแรกไม่ได้หวังอะไรเลยแค่อยากใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมมาทำงานอาสา แต่พอมาทำจริงๆ ได้คุยกับน้องๆ นักเรียนทุนจริงๆ รู้สึกดีมากๆ และได้อะไรหลายๆ อย่างกลับไปด้วย
– บทสัมภาษณ์ Student Volunteer –
ที่มาบอกเล่าความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการทำงานอาสาในครั้งนี้
ไรวินทร์ โกมลวิศิษฐกุล (นิว)
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวารสาร มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
รู้จักโครงการ Volunteer Student ได้อย่างไร
รู้จักเพราะ Unicef ครับ เพราะเห็นว่ามีการรับสมัคร เราเองก็เห็นว่าทำเกี่ยวกับด้านเยาวชนก็เลยอยากทำ รีบสมัครเลย ไม่รีรอด้วย กดคลิกสมัครทันทีเลยครับ
อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสนใจสมัคร
น่าจะเป็นงานที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ผมมองว่าองค์กรมี Passion แน่นอนที่มาทำงานตรงนี้ ช่วยเหลือน้องๆ จริงๆ ผมก็อ่านรายละเอียดในโบรชัวร์ว่าเป็นการโทรติดตามนักเรียนทุน น่าจะเป็นการได้ช่วยเหลือน้องๆ ก็เลยสมัครและผมเองก็มีความสุขทุกครั้งที่มาทำครับ
เคยทำงานอาสาด้านอื่นๆ มาก่อนมั้ย
มีครับ แต่ว่าไม่ใช่งานที่เป็นแบบงานนี้ จะเป็นงานอาสาออกข้างนอก ลุยภาคสนามที่ไปช่วยทาสีโรงเรียน ช่วยน้องๆ ในชนบท หรือว่าไปช่วยที่มูลนิธิบ้านนกขมิ้น ก็เป็นประมาณนี้ครับ
ความแตกต่างของแต่ละงานอาสา
ทุกงานอาสามีความแตกต่าง แต่ละงานเราจะได้รับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน แต่เนื้อหาทั้งหมดของงานอาสามีเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำเพื่อคนอื่น ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าที่มาทำงานอาสาได้อะไรบ้าง
ได้เยอะมากเลยครับ สิ่งแรกที่คิดว่าทุกคนที่มาทำจะได้ คือ ความเข้าอกเข้าใจ การรับรู้ถึงความรู้สึกของคนอื่น การที่ได้มาทำงานนี้ก็มีความกดดัน รับความรู้สึกในแง่บวกแง่ลบ ทำให้เรารู้สึกว่าเราค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ จากงานที่เราทำ เรียนรู้ที่จะปรับตัวยังไงในการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม ทั้งพี่ๆ ในมูลนิธิฯ แต่พี่ๆ เป็นกันเองนะครับ แต่หมายถึงว่าทั้งคุณครูและนักเรียนเอง เขาได้รับอะไรมาบ้าง เราจะให้น้องๆ กลับยังไงได้บ้าง
สิ่งที่กดดันที่เราได้รับคืออะไร
ความกดดัน คือ เรากลัวว่าจะคุยกับน้องเขาไม่รู้เรื่องเพราะเราไม่เคยทำ งานอาสานี้เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผมมากๆ กลัวว่าโทรไปหาน้องๆ จะมีปัญหามั้ย? คุณครูจะพูดกับเรายังไง น้องๆ ผู้ปกครองจะพูดยังไงนะ แต่ผ่านไปสักพักนึงที่เราเริ่มจับประเด็นได้ เข้าใจในสิ่งเขาพูด ทุกอย่างก็ราบรื่นไปได้ด้วยดีครับ
ให้ฝากถึงน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ นักเรียนนักศึกษาที่อยากมาทำงานอาสาแบบเราบ้าง
ผมมองว่าทุกคนต้องมีเป้าหมายว่าถ้ามาทำงานอาสาตรงนี้แล้ว เราจะทำเพื่ออะไร อยากได้อะไรกลับไป ถ้ารู้สึกว่าทำแล้วจะไม่ได้อะไร ก็ยังไม่ต้องทำ แต่ถ้าทำแล้วรู้สึกว่าเราชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบที่เห็นคนอื่นมีความสุข หรืออยากทำเพื่อคนอื่นจริงๆ สมัครเลยครับ เพราะเป็นสิ่งที่ดีที่ตอบโจทย์ตัวเราครับ
ฝากถึงน้องๆ นักเรียนทุนยุวพัฒน์
พี่ก็ขอให้เราใช้ประโยชน์จากการเป็นนักเรียนทุนให้เต็มที่ ก็คือ ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีของครอบครัว เมื่อไหร่ที่มีปัญหาไม่ต้องอายที่จะโทร น้องมาขอคำปรึกษากับพี่ๆ ได้เลย พี่ๆ เขาก็พร้อมตลอดนะ น้องๆ หลายคนที่ประสบกับปัญหา พี่ก็ไม่อยากให้เก็บไว้คนเดียวนะ มีอะไรก็มาแชร์กันกับพี่ๆ ได้เลย จะได้ไม่กดดันตัวเอง ส่วนเรื่องเรียนปรึกษาได้เลยนะครับ
ณิชา นันทนเจริญกุล (คิด)
กำลังเตรียมตัวเข้าสู่มหาวิทยาลัย
รู้จักโครงการ Student Volunteer ได้อย่างไร
เพื่อนแนะนำมาค่ะ เพื่อนมาทำอาสาในรุ่นที่ 1 ส่วนตัวคิดเองมาทำเป็นรุ่นที่ 2 และก็ได้ไปหาข้อมูลของมูลนิธิฯ มาด้วย เป็นงานอาสาที่น่ามาทำ ก็เลยสมัครค่ะ
เหตุผลที่สมัครมาทำงานอาสาครั้งนี้
อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะช่วงนี้เราว่างมากๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนอนอยู่บ้าน แต่ตอนแรกคิดก็อยากหางานจิตอาสาทำอยู่แล้ว แต่ว่าเพื่อนเขาได้สมัครงานอาสานี้มาก่อน พอเขาแนะนำให้มา เราก็อยากลองมาทำงานนี้ด้วย เพราะว่าคิดก็อยากฝึกฝนตัวเองในการสื่อสารกับคนอื่นด้วยค่ะ ก็เลยสมัครเข้ามา
เคยทำงานอาสามาในด้านอื่นๆ มาก่อนมั้ย
เคยทำค่ะ แต่ว่างานจะไม่ใช่แบบนี้ จะเป็นงานอาสาที่เน้น Activities มากกว่า เช่น สร้างฝาย ทาสีโรงเรียน
ความแตกต่างของแต่ละงานอาสาที่เคยไปทำมา
แต่ละงานจะได้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน สำหรับงานนี้จะเป็นงานอาสาที่ต่อเนื่อง ทำแบบยาวๆ เลย แต่งานอื่นจะเป็นแบบระยะสั้น ไปทำแล้วก็จบในวันนั้น แต่งานนี้เราได้ติดตามดูน้องๆ เขาไปเรื่อยๆ เรียนรู้พัฒนาการของเขา ครั้งนี้น้องเขาโทรมาเป็นแบบนี้ ครั้งต่อไปเขาโทรมาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ได้เห็นพัฒนาของพวกเขา คิดได้อ่านจากประวัติการโทรติดตามของพี่เลี้ยงอาสาคนก่อนๆ เห็นว่าน้องคนนี้มีปัญหาอยู่ แต่พอคิดโทรไปหาน้องเขาบอกว่าปัญหาคลี่คลายแล้ว ตอนนี้เขามีความสุข คิดก็มีความสุขไปกับเขาด้วยค่ะ
งานอาสาครั้งนี้ให้อะไรกับเราบ้าง
ช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบเรานะที่มีความพร้อมทุกอย่าง คนในชนบทไม่เหมือนคนที่กรุงเทพนะที่เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก แต่สำหรับน้องๆ บางคนเขาต้องเดินทางไปโรงเรียนไกลมาก ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการเดินทาง เขาลำบากกว่าเราเยอะ ทำให้คิดเข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วย เพราะว่าเขาไม่ได้พร้อมแบบเรา เขาต้องการโอกาสและเราจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยให้โอกาสเขาค่ะ
ฝากถึงเพื่อน พี่ๆ นักเรียน นักศึกษา ที่อยากจะเริ่มต้นทำงานอาสา
สำหรับใครที่ว่างๆ ช่วงปิดเทอม ไม่รู้จะทำอะไร อยากให้ลองมาทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นดูบ้าง เพราะเราไม่ได้มาให้เขาอย่างเดียวแต่เราก็ได้กลับมาด้วยเหมือนกันหลายๆ อย่างเลย ก็อยากจะชวนให้ลองมาทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคม ช่วยๆ กัน สังคมของเราจะได้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ฝากถึงน้องๆ นักเรียนทุนยุวพัฒน์
ก็ตั้งใจเรียน เพราะน้องได้โอกาสมาแล้ว ยังมีหลายคนที่เขาไม่ได้โอกาสแบบนี้ อยากให้น้องๆ ใช้โอกาสตรงนี้ให้ดีที่สุด และตั้งใจเรียน เพื่อมาช่วยพี่ๆ ทำงานหรือมาช่วยพัฒนาสังคม พัฒนาประเทศชาติให้น่าอยู่ มาช่วยกันสร้างสังคมของเรานะคะ
ปวิชญา ปานแดง (การ์ตูน)
กำลังจะเข้าศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มาถอดบทเรียนในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
สนุกนะคะ เป็นการมาสรุปงานทุกอย่างที่เราได้ทำมาทั้งหมด มาแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ พี่ๆ ได้เห็นมุมมองของเพื่อนๆ พี่ๆ ว่าเขาคิดแบบไหน เป็นการมารีเช็คตัวเองอีกทีว่าเราได้อะไรจากงานอาสาครั้งนี้บ้าง
รู้จักกับโครงการนี้ได้อย่างไร
เพราะเป็นช่วงที่เราว่างมากๆ ก็เลยหาข้อมูลว่าเราจะหาอะไรทำดี เราอยากจะทำงานจิตอาสาก็เลย search Google หาคำว่างานจิตอาสาสำหรับเยาวชน ก็เห็นประชาสัมพันธ์งานนี้ขึ้นมาในเว็บไซต์ของที่เกี่ยวกับงานจิตอาสาและก็มีโปสเตอร์งานนี้ก็เลยคลิกเข้าไปอ่านดู มีงานจิตอาสาหลายงานมากๆ แต่เห็นโปสเตอร์งาน Student Volunteer สวยดี มีรายละเอียดที่เป็นงานจริงจัง ก็เลยคลิกสมัครและก็หาข้อมูลของมูลนิธิยุวพัฒน์ดูว่าเป็นมูลนิธิฯ เกี่ยวกับอะไร งานอาสาที่โทรศัพท์ต้องทำงานยังไง อ่านรายละเอียดแล้วน่าสนใจและเวลาตรงกันพอดี ก็เลยลองสมัคร พอสมัครแล้วก็มีพี่โทรมาสอบถาม พี่เขาพูดดีเราก็เลยโอเค ก็เลยได้มาทำงานนี้ค่ะ
เหตุผลอะไรที่ทำให้เราสนใจสมัครงานอาสาครั้งนี้
เพราะเป็นโครงการที่น่าทำที่สุดจากที่ดูมาหลายๆ งานค่ะ รู้สึกว่าดูทันสมัย ได้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กรู้สึกเลยว่าเป็นมูลนิธิฯ ที่ทำงานจริงจังและให้จริงๆ และก็ได้มานั่งทำงานอาสาในห้องแอร์ ไม่ร้อน อาจจะเดินทางลำบากนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ
เคยไปทำงานอาสาอย่างอื่นมาก่อนมั้ย
เคยไปทำกับคุณป้าที่เป็นทันตแพทย์ คุณป้าจะพาไปออกหน่วย ไปเป็นผู้ช่วย ยังไม่เคยได้ทำอาสาแบบจริงจังแบบงานนี้ค่ะ
ความประทับใจที่ได้มาทำงานอาสาครั้งนี้
ได้คุยกับน้องๆ ค่ะ ได้เรียนรู้ว่าน้องเขาคิดยังไง น้องเขาเป็นยังไง เราไม่เคยคิดว่างานอาสาเราจะทำได้จริงจังแบบนี้ งานนี้สามารถทำเพื่อให้น้องๆ ได้เต็มที่มากๆ และประทับใจที่เมื่อมีน้องๆ โทรเข้ามาแล้วมีคนพร้อมตอบเขาตลอดหรือพร้อมให้คำแนะนำพวกเขาค่ะ
ก่อนหน้านี้คิดยังไงกับคำว่า “เด็กขาดโอกาส”
เราแทบจะไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย รู้แค่ว่าเขาไม่ค่อยมีทุนทรัพย์ ไม่คิดว่าเขาจะอยากเรียน คิดว่าคงอยู่ไปวันๆ พอได้มารู้จักจริงๆ น้องเขาก็อยากเรียนนะ น้องเขาก็มีความฝันของเขาแต่ว่าเขาขาดทุนทรัพย์และขาดหลายๆ อย่าง เขามีสิ่งที่เขาอยากทำแต่เขาไปไม่ถึงเพราะเขาขาดทุน เพราะเขามีจุดเริ่มต้นไม่ค่อยดี พอเราได้มาฟังพวกเขา เรารู้สึกเลยว่าเด็กทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง เด็กทุกคนมีสิ่งที่เขาอยากทำ เขาเป็นคนเก่งแค่เขาขาด ถ้าเราได้ช่วยกัน เราสามารถพาเขาไปได้ไกลอีกเยอะเลยค่ะ
ฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำงานอาสา
ถ้าเรารู้สึกอยากจะทำแล้ว เดินหน้าต่อไปเลยค่ะ อย่ามัวแต่ Save ข้อมูล แคปเจอร์หน้าจอเอาไว้ก่อน ถ้ามีเวลาแล้วสมัครเลยค่ะ ส่วนงานอาสา Student Volunteer อย่างที่เราทำก็ไม่ได้ใช้เวลาเยอะเลย เริ่มต้นมูลนิธิฯ ให้เราทำให้ได้ครบ 12 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ลองมาทำดูก่อนก็ได้วันละ 4 ชั่วโมง 3 วันก็ครบ 12 ชั่วโมงแล้วนะ ไม่ต้องมีเวลาเยอะมากก็ได้ ลองมาทำดูก่อน อยากทำก็ทำเลย งานนี้ก็ไม่ได้ยากเพราะเราแค่โทรศัพท์ไปคุยกับน้อง ให้คำแนะนำดีๆ กับน้อง สนุกด้วย ได้อะไรที่ดีๆ กลับไปเยอะมากๆ ลองทำมาดูก่อนได้นะคะ
ฝากถึงน้องๆ นักเรียนทุนยุวพัฒน์
ก็อยากให้น้องทำตามที่ตัวเองฝัน อยากให้น้องมีอนาคตที่ดี อยากให้ทุกคนเรียนให้จบ แต่ก็มีหลายๆ คนที่เขายังไม่เข้าใจว่าการเรียนสำคัญมากๆ นะ อย่างน้อยๆ มูลนิธิฯ ก็มีเงินทุนให้น้องแล้ว ก็เรียนไปเถอะ เรียนให้จบ เพราะก็ไม่ได้ยากอะไร เพราะการศึกษาเป็นสิ่งพื้นฐานที่เราควรจะมี เมื่อโตขึ้นเราก็จะรู้ว่าการเรียนสำคัญมากๆ และน้องอีกหลายๆ คน ที่มีสิ่งที่ต้องการอยากจะทำแต่ยังทำไม่ไหว ก็สู้ต่อไปนะคะ สักวันจะต้องสำเร็จแน่ๆ ค่ะ