Site icon มูลนิธิยุวพัฒน์

บทเรียนจาก “ภารกิจทำลายแหวน” ในภาพยนตร์ The Lord of the Rings

The Lord of the Rings หนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำเงินตลอดกาล มีชื่อไทยว่า “อภินิหารแหวนครองพิภพ” ที่ดำเนินเรื่องโดยโฟรโด้และชาวคณะที่ได้รับภารกิจให้ทำลายแหวนเอกธำมรงค์ ซึ่งเป็นแหวนที่จอมมารเซารอนหวังจะชิงกลับคืน เพื่อที่จะรวบรวมอำนาจและเป็นใหญ่ในดินแดนมิดเดิลเอิร์ท

ตั้งแต่ในภาคแรกจนถึงบทสรุป เราได้เห็นบุคลิกลักษณะนิสัยของตัวละครและวิธีการตัดสินใจของแต่ละคนระหว่างการเดินทางที่ส่งผลต่อภารกิจอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ จนกระทั่งแหวนของจอมมารถูกทำลายลง คณะพันธมิตรแห่งแหวนก็ได้แยกย้ายไปตามทางของตน แต่ความทรงจำของแต่ละตัวละครที่มีร่วมกันนั้น ยังคงผูกพันธ์กันได้อย่างเหนียวแน่น นอกจากความตื่นเต้นและการลุ้นระทึกในหนังแล้ว เรายังได้เรียนรู้และได้ข้อคิดหลายๆ อย่างจากหนังเรื่อง The Lord of the Rings อีกด้วย

ถึงจะเล็กแต่ยิ่งใหญ่ได้

เหล่าฮอบบิท ที่มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 2-4 ฟุต ถึงแม้พวกเขาจะตัวเล็กมากแต่ก็ยินดีรับงานที่ยิ่งใหญ่ เพราะภารกิจที่เหล่าฮอบบิทได้แบกรับนั้น สามารถชี้ชะตาของดินแดนมิดเดิลเอิร์ทได้

หลังถูกพวกออร์คโจมตีเพื่อมาแย่งชิงแหวนกลับไปให้พ่อมดขาวซารูมานผู้ที่มอบจิตวิญญาณให้กับจอมมาร เหล่า 4 หนุ่มฮอบบิทถูกแยกกลุ่มออกจากกัน คู่แรก คือ โฟรโด้และแซม และอีกคู่คือ แมรี่กับพิพพิ้น ทุกคนก็ต่างส่งกำลังใจให้โฟรโด้และแซมฝ่าฟันอุปสรรคระหว่างทางเพื่อให้พวกเขาไปถึงหุบเขาที่จะทำลายแหวนได้ ไม่ใช่แค่เพียงภัยอันตรายต่างๆ ที่มีอยู่ตลอดระหว่างทาง แต่โฟรโด้กับแซมยังถูกบั่นทอนกำลังใจอีกด้วย ทั้งพลังอำนาจแห่งแหวนที่เรียกร้องจะกลับไปหาจอมมาร และตอนที่โฟรโด้ถือแหวนอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ หรือการถูกยุยงโดยกอลลั่มที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สั่นคลอน

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้ฝ่าฝันสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้มาได้ จนสามารถทำลายแหวนได้ในที่สุด แมรี่และพิพพิ้น 2 ตัวละครที่ได้สร้างเสียงหัวเราะ และเป็นตัวป่วนผู้ซึ่งอยากรู้อยากเห็นในทุกๆ เรื่อง ที่ทำให้ครั้งหนึ่งคณะพันธมิตรแห่งแหวนตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องร่วมศึกพร้อมพวกพ้อง พวกเขากลับสู้ไม่ถอย พร้อมที่จะจับดาบและยืนเคียงข้างพวกพ้องถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นชัยชนะในครั้งนั้นก็ตาม

ด้วยนิสัยช่างพูดช่างเจรจา ทำให้ทรีเบียร์ดผู้คุ้มครองป่าเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกเขาได้อีกด้วย อีกหนึ่งตัวละครที่สำคัญคือ เอโอวีน ซึ่งเป็นหลานสาวของกษัตริย์เธโอเดน แต่เพียงเพราะตัวเธอนั้นเป็นหญิงแต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมศึกกับพี่น้อง เธอจึงถูกกีดกันอยู่ตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดแล้ว เอโอวีนก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ผู้หญิงอย่างเธอนั้นแข็งแกร่งเพียงใด คนตัวเล็กๆ อย่างพวกเขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้

ความหมายของคำว่าเพื่อน

ความสัมพันธ์ของเพื่อนที่เห็นได้ชัดคือคู่ของของโฟรโด้และแซม เราได้เห็นโฟรโด้ช่วยแซมขึ้นมาจากน้ำที่เกิดจากความดื้อรั้นของแซมที่ยืนยันว่าจะติดตามโฟรโด้ไปให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าแซมจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม และแซมได้ช่วยชีวิตโฟรโด้ไว้หลายครั้ง รวมไปถึงการให้กำลังใจโฟรโด้เมื่อพลังของแหวนพยายามครอบงำผู้ถือแหวน หนึ่งในวลีของแซมที่ทำให้ผู้ชมประทับใจ คือ “Come, Mr. Frodo! I can’t carry it for you, but I can carry you.” “มาเถอะ คุณโฟรโด้ ผมแบกมัน (แหวน) ให้คุณไม่ได้ แต่ผมแบกคุณได้” จากนั้นแซมก็แบกโฟรไว้บนบ่า พยายามพาตัวเองและโฟรโด้ไปให้ถึงหุบเขาที่จะทำลายแหวน ถึงแม้ว่าสภาพร่างกายของเขานั้นแทบจะเดินไม่ไหวก็ตาม

ในบางครั้งเราอาจจะทะเลาะกับเพื่อนบ้าง แต่นั้นไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหายไปไหน แม้ว่าเพื่อนจะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เพื่อนจะคอยประคับประคองเรา ส่งเสริมเราในทางที่ดี และไม่ทิ้งเรา ปล่อยให้เราเดินทางผิดแน่นอน

มุ่งมั่นเพื่อทำภารกิจจนสำเร็จ

ทุกตัวละครต่างก็มีภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โฟรโด้ผู้ถือแหวน มีหน้าที่นำแหวนไปทำลาย, แซมมีหน้าที่ติดตามโฟรโด้ เป็นหลักยึดเหนี่ยวให้กับโฟรโด้เมื่อโฟรโด้อ่อนแอ, อารากอน กษัตริย์ไร้บัลลังค์ คือ ผู้นำทัพของมนุษย์กลุ่มสุดท้ายเข้าต่อสู้กับกองทัพมหาศาลของจอมมาร, พ่อมดแกนดาล์ฟ ที่เหล่าเทพได้มอบภารกิจให้มาเป็นผู้ชี้ทางให้แก่มวลมนุษย์ได้ปลดแอกตัวเองจากความมืด หรือแม้แต่เอโอวีน หลานสาวของกษัตริย์เธโอเดนที่พาชาวเมืองอพยพระหว่างที่ลุงของตนเองกำลังสู้อยู่กับศัตรู เป็นต้น หากทุกคนไม่สนใจที่จะทำหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จ ดินแดนมิดเดิลเอิร์ทก็ต้องตกไปอยู่ในมือของจอมมารและเข้าสู่ยุคมืดได้

เราสามารถนำความมุ่งมั่นของตัวละครเหล่านี้ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองที่พยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ เพื่อสิ่งที่ดีในวันข้างหน้า ทั้งในเรื่องการเรียน การงาน หรือแม้แต่การฝึกฝนอะไรก็ตาม หากเรามีความพยายามที่จะทำอะไรบางอย่าง แม้ว่าจะต้องใช้เวลาและมีอุปสรรคระหว่างทาง ขอให้เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำอยู่ เพราะความสำเร็จรอเราอยู่เสมอ

ปล่อยวางอดีต เพื่อสร้างอนาคต

ในตอนแรก กษัตริย์เธโอเดนปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือจากกอนดอร์ เพราะเมืองโรฮานของกษัตริย์เธโอเดนได้ต่อสู้กับกองทัพของจอมมารเพียงลำพังในตอนแรก แต่เมื่อสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือจากกอนดอร์ถูกจุดในภายหลัง กษัตริย์เธโอเดนก็ได้ลบล้างอคติในใจนั้นออกไปและได้รวบรวมกำลังเพื่อไปช่วยเหลือกอนดอร์ เพราะเธโอเดนเองก็รู้ดีว่าหากไม่ตอบรับความช่วยเหลือกอนดอร์ในคราวนี้ อาจทำให้ทุกชีวิตในมิดเดิลเอิร์ทดับสูญ

อดีตเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ทุกคนต่างมีอดีตและมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แต่เราสามารถนำอดีตและประสบการณ์ในชีวิตมาเป็นบทเรียน เพื่อแก้ไขและนำมาพัฒนาปรับปรุงปัจจุบัน เพื่ออนาคตที่ดีได้

เสียสละ…เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ในบทสรุปไตรภาค โฟรโด้และแซมได้เดินทางมายังบริเวณหุบเขาที่จะทำลายแหวนแล้ว แต่ว่ากองทัพมหาศาลของเหล่าออร์คขวางกั้นทางเดินไว้ ทำให้ไม่สามารถเดินทางข้ามไปยังหุบเขาได้ ในขณะที่ฝั่งอารากอนและพรรคพวกรู้ดีถึงอุปสรรคนี้ เขาจึงตัดสินใจยกกองทัพมนุษย์ที่เหลืออยู่ไปเผชิญหน้ากับกองทัพของจอมมาร  ถึงแม้จะรู้ดีว่าศึกครั้งนี้พวกเขาไม่มีโอกาสชนะเลย แต่อารากอนและพวกพ้องก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเสียสละเพื่อหลอกล่อให้กองทัพจอมมารออกมาที่หน้าประตู ส่งผลให้ทางเดินไปยังหุบเขาเปิดโล่ง โฟรโด้และแซมจังสามารถเดินไปยังจุดมุ่งหมายได้

การเสียสละไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอไป เราสามารถเริ่มต้นด้วยการทำในสิ่งเล็กน้อยได้อย่างง่ายดาย  เช่น การช่วยเหลือคนอื่นๆ ช่วยเพื่อนติวหนังสือ เข้าร่วมกิจกรรมอาสา ให้ความรู้ ฯลฯ เพราะการช่วยเหลืออย่างละเล็กอย่างละน้อยเหล่านี้จะทำเราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจทำให้สำเร็จได้

แม้จะเป็นโลกจินตนาการในหนังเรื่องหนึ่ง แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องการยอมรับและอยู่ร่วมกันในความแตกต่างของเผ่าพันธุ์ที่มีความหลากหลาย ที่มีทั้งมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ ฮอบบิท หรือเหล่าออร์ค ฯลฯ เมื่อทุกเผ่าพันธ์เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน และเข้าใจในการดำรงอยู่ของความแตกต่างกัน ก็ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ได้อย่างสันติสุข

เรื่อง : ศิริพรรณ รัตนะอำพร
ภาพประกอบ : https://www.pinterest.com

Exit mobile version