กิจกรรมนอกหลักสูตร เป็นกิจกรรมพัฒนา เสริมทักษะ และเสริมศักยภาพเพิ่มเติมจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เราจะได้ทำในสิ่งที่สนใจ เพิ่มความรู้ และเพิ่มประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคม เช่น ทักษะการทำงานเป็นทีม ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการคิดสร้างสรรค์ และทักษะการนำเสนอ เป็นต้น โดยกิจกรรมนอกหลักสูตรก็มีหลากหลายประเภทที่เราเลือกได้ตามความสนใจ เช่น กิจกรรมกีฬา ดนตรี ศิลปะ การแสดง การพูด การเขียน การทำงานอาสาสมัคร และการทัศนศึกษา เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ และได้พัฒนาความสนใจและความถนัดของตนเอง

นอกจากนี้ กิจกรรมนอกหลักสูตรยังช่วยให้เยาวชนที่กำลังอยู่ในวัยเรียนได้เตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับมหาวิทยาลัย เนื่องจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งให้ความสำคัญกับกิจกรรมนอกหลักสูตรของนักเรียนเป็นอย่างมาก และอาจใช้กิจกรรมนอกหลักสูตรเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาในการรับนักศึกษาเข้าเรียนด้วย ดังนั้น กิจกรรมนอกหลักสูตรจึงมีความสำคัญต่อนักเรียนเป็นอย่างมาก นักเรียนควรให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรควบคู่ไปกับการเรียนในหลักสูตร เพื่อให้ตนเองได้พัฒนาทักษะและความสามารถที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในชีวิต

ประโยชน์และความสำคัญของกิจกรรมนอกหลักสูตร

การเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรจะทำให้เราได้ขยายวงสังคมเพื่อน เจอเพื่อนใหม่ เจอสังคมที่แตกต่างจากเดิม ได้ต่อยอดในสิ่งที่สนใจเดิมหรือได้ค้นพบกับสิ่งที่สนใจใหม่เพิ่มขึ้น ได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ และการได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนที่มีความสนใจและเป้าหมายแบบเดียวกัน นอกจากนี้ยังเสริมความสามารถในการเข้าสังคม การรับมือกับภาวะอารมณ์ และทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกฝนการพึ่งพาตัวเองและการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้คือทักษะที่ต้องมีเพราะจำเป็นต่อการทำงานและการอยู่ร่วมกันในสังคม

อีกหนึ่งความสำคัญของการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร คือช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตัวเราเมื่อเขียนเรซูเม่ (Resume) หรือประวัติส่วนตัวโดยย่อ ซึ่งจะถูกใช้เมื่อสมัครเข้าทำงาน ยกตัวอย่างเช่น หากเราสนใจทำงานในด้านสายงานการเงิน ก็ต้องมีประวัติการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมด้านการเงิน เรซูเม่ของเราก็จะมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะมีประวัติการฝึกฝนทักษะจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการเงินมาแล้ว เป็นต้น

สำหรับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ก็จะให้ความสำคัญกับผู้ที่สมัครเข้าเรียนที่มีความกระตือรือร้น มีทักษะความเป็นผู้นำ หรือมีทักษะด้านอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจนอกจากเรื่องการเรียน รวมทั้งให้ความสำคัญกับนักเรียนที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัวด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นยิ่งมีประสบการณ์การทำกิจกรรมนอกหลักสูตรมากเท่าไหร่ ก็จะมีข้อได้เปรียบเพิ่มมากขึ้น และอย่ากังวลที่จะเขียนประสบการณ์หรือกิจกรรมที่เคยทำในใบสมัครหรือเรซูเม่ เพราะการมีทักษะที่จำเป็นและการได้รับประสบการณ์มาแล้วจะเป็นจุดที่โดดเด่นอย่างมากในการพิจารณาการรับคนเข้ามาทำงาน เพราะประสบการณ์และทักษะเหล่านี้จะทำให้เห็นถึงการประสิทธิภาพการทำงาน การพึ่งพา การบริหารจัดการเวลา การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นจะเป็นทักษะระดับพื้นฐานหรือการฝึกงานที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน แม้กระทั่งงานรับจ้างทำสวนหรืองานรับจ้างทั่วไป ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์การทำงานที่สร้างคุณค่าได้ทั้งนั้น

ต้องทำกิจกรรมนอกหลักสูตรมากแค่ไหน?

สามารถทำได้โดยไม่มีข้อจำกัด สิ่งที่สำคัญต้องเลือกกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจของตัวเอง การเข้าร่วมทำกิจกรรมเยอะๆ แต่กิจกรรมนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในอนาคตหรือแต่ละกิจกรรมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน อาจทำให้เรซูเม่หรือใบสมัครของเราไม่โดดเด่นเท่ากับการแสดงถึงความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากๆ ผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ได้ทำ

เลือกทำกิจกรรมจากทักษะและความสนใจของตัวเอง ทดลองจากการลงมือทำและทบทวนตัวเองอยู่เสมอว่ากิจกรรมรูปแบบไหนที่เราทำได้ดี กิจกรรมแบบไหนที่เราไม่ถนัด กิจกรรมแบบไหนที่ทำแล้วสนุกหรือไม่สนุก กิจกรรมที่ทำให้เชื่อมั่นว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเรามากที่สุด

ตัวอย่างประเภทของกิจกรรม

1. กีฬา (Sports)
กีฬาเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีหลายประเภทให้เลือก เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ ฯลฯ การเล่นกีฬาทำให้ได้ออกกำลังกาย เสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ กีฬายังทำให้ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม การมีน้ำใจนักกีฬา และการเคารพกฎกติกา

2. ดนตรี (Music)
ดนตรีเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ได้รับความนิยมมาก มีหลากหลายประเภท เช่น การร้องเพลง การเล่นดนตรี การเต้นรำ ฯลฯ กิจกรรมดนตรีทำให้ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถทางด้านดนตรีของตัวเอง นอกจากนี้ดนตรียังช่วยทำให้ได้ผ่อนคลายความเครียดและความวิตกกังวล

3. ศิลปะ (Art)
ศิลปะเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรที่จะได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถทางด้านศิลปะของตัวเอง กิจกรรมศิลปะมีหลากหลายประเภท เช่น การวาดภาพ การปั้น การถ่ายภาพ ฯลฯ กิจกรรมศิลปะจะทำให้ได้เรียนรู้วิธีการแสดงออกทางความคิดและความรู้สึกผ่านงานศิลปะ นอกจากนี้ศิลปะยังช่วยเรื่องการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

4. การบริการชุมชน (Community Service)
เป็นกิจกรรมที่จะได้มีโอกาสตอบแทนชุมชนของตัวเอง กิจกรรมการบริการชุมชนมีหลากหลายประเภท เช่น การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส การทำงานอาสาสมัคร ฯลฯ กิจกรรมการบริการชุมชนจะทำให้ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการให้และการช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากนี้การบริการชุมชนยังช่วยพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม

5. การท่องเที่ยว (Travel)
การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่ทำได้เห็นโลกและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ เช่น การทัศนศึกษา การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ฯลฯ กิจกรรมการท่องเที่ยวทำให้ได้เปิดโลกทัศน์และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างจากตัวเอง นอกจากนี้การท่องเที่ยวยังช่วยให้ได้พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ

6. การเรียนรู้ภาษา (Language Learning)
การเรียนรู้ภาษาเป็นกิจกรรมที่ทำให้มีโอกาสเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ และมีหลากหลายประเภท เช่น การเรียนภาษาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย การเรียนภาษาออนไลน์ ฯลฯ กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาช่วยให้สื่อสารกับผู้คนจากต่างวัฒนธรรมและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ นอกจากนี้การเรียนรู้ภาษายังทำให้ได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอีกด้วย

7. การพัฒนาตนเอง (Personal Development)
การพัฒนาตนเองเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ให้มีโอกาสพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น การเข้าร่วมการอบรม การเข้าร่วมสัมมนา ฯลฯ กิจกรรมการพัฒนาตนเองช่วยให้ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น นอกจากนี้การพัฒนาตนเองยังช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเองและพัฒนาความเป็นผู้นำ

การใช้กิจกรรมนอกหลักสูตรวางแผนอนาคต

หากพอมีไอเดียและเข้าใจถึงตัวเลือกในแต่ละกิจกรรมมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการลงมือทำ! โดยเริ่มต้นจาก

  • ปรึกษาคุณครูว่ามีกิจกรรมหรือมีชมรมอะไรบ้างในโรงเรียน
  • ปรึกษาคุณครูหรือผู้ปกครองเกี่ยวกับอาชีพหรือสิ่งที่สนใจ เพื่อค้นหากิจกรรมนอกหลักสูตรที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความสนใจของตนเอง
  • เข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเพิ่มขึ้น เช่น ถ้าอยู่ชมรมบาสเก็ตบอลก็ให้โอกาสตัวเองเข้าร่วมชมรมกีฬาประเภทอื่นๆด้วย

สิ่งสำคัญที่สุด!! ต้องทำกิจกรรมด้วยความสนุกและมีความสุขที่ได้ทำและทำอย่างพอดี จัดสรรเวลาให้ดีเพื่อไม่ให้กระทบกับหน้าที่อื่นที่เรารับผิดชอบอยู่ หวังว่าบทความนี้จะช่วยสร้างความน่าสนใจและเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน ให้โอกาสตัวเองได้ทำในสิ่งที่แตกต่างในทุกๆ วัน เพราะไม่มีวันไหนที่จะลงมือทำได้ดีไปกว่า…ทำแล้วในวันนี้!

ที่มา :
Source: Extracurricular Activities: Life Outside the Classroom | ASVAB CEP (asvabprogram.com)

ภาพประกอบ :
https://dribbble.com/shots/15799226-Characters
www.jiaqiwang.org

ผู้เขียน : โบจะบิน
#อาสาเขียนบทความ