พี่ธิวพีรศักดิ๋ ศิริสวัสดิ์ แม้จะผ่านงานอาสาสมัครมาไม่มากนัก แต่ประสบการณ์จากการได้เป็นอาสาสมัครลงพื้นที่สำรจโรงเรียนทำให้พี่ธิวตระหนักได้มากขึ้น ว่าหากคนอื่นๆ หรือคนรอบข้างของเราไม่มีความสุข ตัวเราเองก็คงจะไม่มีความสุข เพราะทุกคนต้องอยู่ในสังคมเดียวกันทุกอย่างมีความเกี่ยวเนื่องและส่งผลกระทบถึงกันทั้งสิ้น เป้าหมายในชีวิตคือเราต้องช่วยคนอื่นในวันที่เราพร้อมจะแบ่งปัน พี่ธิวเปิดใจเล่าให้ฟัง ว่าวีชิตของพี่ธิวในวัยเด็กไม่สมบูรณ์มากนัก ฐานะทางบ้านค่อนข้างลำบาก แต่เพราะเป็นเด็กตั้งใจเรียนถึงให้ได้รับทุนการเรียนศึกษามาตลอด ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนจึงไม่หนักมากนัก และโดยส่วนตัวแล้วพี่ธิวชอบทำกิจกรรม เพราะฉะนั้นหากมีกิจกรรมอะไรก็ตามที่สามารถช่วยได้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่สารถทำได้ด้วยการลงแรงหรือใช้ความสามารุที่พี่ธิวมี พี่ธิวยิงที่จะทำทุกอย่าง กระทั่งพี่ธิวเรียนจบ มีงานที่มั่นคงทำให้รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่นอย่างที่เคยตั้งใจไว้ จึงเริ่มมองหากิจกรรมจิตอาสาทำอย่างจริงจัง เพราะอยากให้เวลาว่างของตัวเองให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างการได้ลงมือทำงานจิตอาสาทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจากประสบการณ์การเป็นหนึ่งในทีมอาสาสำรวจโรงเรียนของมูลนิธิยุวพัฒน์ พี่ธิวเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ว่าการทำงานครั้งนั้นทำให้เห็นถึงปัญหามากขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อนนั้นมองเห็นปัญหาแค่ว่าคนๆ นั้นจะได้รับผลจากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าปัญหาของคนหนึ่นึ่งคนซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขนั้นสารถส่งผลกระทบถึงคนรอบข้าง สังคม และประเทศชาติได้ กระทั่งได้ลงมือปฏิบัติงานจริง จึงทำให้มองเห็นชัดเจน ว่าทุกอย่างส่งผลกระทบถึงกัน เราคงมีความสุขไม่ได้ หากคนอื่นๆ ยังไม่มีความสุข ประสบการณ์การได้เป็นจิตอาสา