Site icon มูลนิธิยุวพัฒน์

เตรียมตัวเข้าสู่มหาวิทยาลัย

การเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยอาจสร้างความกังวลใจได้ เพราะวิชาเรียนจะยากขึ้น และครูผู้สอนก็เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่เรียนและสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งหมด การเตรียมความพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญทั้งสำหรับนักเรียนสายสามัญและสายอาชีพ

หาตัวเองให้เจอ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วลงมือทำ

1. ค้นหาตัวเองและข้อมูลคณะที่น่าสนใจ
มหาวิทยาลัยจะเรียนเฉพาะด้านกว่าช่วงมัธยมหรือวิทยาลัย เพราะต้องนำสิ่งที่ร่ำเรียนไปใช้เป็นอาชีพ จึงควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่สนใจ เนื้อหาที่เรียน และการนำไปประยุกต์ใช้

2. ศึกษาวิธีการสอบคัดเลือก
บางคณะเปิดรับคัดเลือกแค่รอบเดียว แต่บางคณะเปิดรับหลายรอบ ควรศึกษาข้อมูลการเปิดรับสมัครอย่างละเอียด เพื่อเตรียมตัวและเผื่อกรณีไม่ติดในรอบแรก

3. หาข้อมูลวิชาที่ใช้สอบ
แม้จะเป็นคณะเดียวกัน แต่สาขาวิชาอาจมีวิชาที่ใช้สอบแตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อเตรียมตัวสอบให้ถูกต้อง

4. วางแผนอ่านหนังสือหรือฝึกทำโจทย์
หลังจากรู้คณะที่อยากเรียนแล้ว ควรวางแผนอ่านหนังสือ แบ่งเวลาอ่านหนังสือและฝึกทำโจทย์เพื่อเตรียมความรู้ให้แน่น

5. ลงมือทำ
การลงมือทำตามแผนที่วางไว้เป็นสิ่งสำคัญ อาจไม่ต้องเป๊ะมาก แต่ควรเตรียมตัวและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

ในรั้วมหาวิทยาลัยคือสนามฝึกทักษะเพื่อเตรียมตัวสู่โลกการทำงาน

เมื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย นักศึกษาจะได้พบกับโลกใบใหม่ เพื่อนใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ และวัฒนธรรมใหม่ การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทั้งด้านเวลา การแสดงความคิดเห็น และการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยการทำงาน

ตอบคำถามตัวเอง ว่า “เพราะอะไรต้องเรียนมหาวิทยาลัย?”
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งที่มีผู้ประสบความสำเร็จมากมายที่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ควรปรับความรู้สึกนึกคิดว่าการเรียนมหาวิทยาลัยมีประโยชน์และสร้างองค์ความรู้ทั้งวิชาการและบทเรียนชีวิตมากมาย

เรียนรู้ด้วยตัวเอง
การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ลึกซึ้งในสาขาวิชาที่เรียน โดยผู้เรียนต้องศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง และมีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในห้องเรียน

ฝึกยั้งคิดก่อนตัดสินใจ
เมื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย นักศึกษามักได้รับอิสระในการคิดและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น ควรจัดการตนเองอย่างดี มีสติและความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น

สร้างวินัยรับผิดชอบ
การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเป็นการสร้างนิสัยความรับผิดชอบ จัดระบบวางตารางเวลาในการเรียน การทำรายงาน การค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม และแบ่งเวลาสำหรับการทำกิจกรรมด้วย

เรามีเวลาในมหาวิทยาลัยไม่มาก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่

การเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงเวลาสำคัญและเป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตทั้งในด้านวิชาการและการพัฒนาตัวเอง ดังนั้นควรใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าและเต็มที่ที่สุด:

1. ร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
การเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย เช่น ชมรมต่าง ๆ สโมสรนักศึกษา งานอาสาสมัคร หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม ช่วยเสริมสร้างทักษะทางสังคม ทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ และพัฒนาความสามารถในการทำงานเป็นทีม กิจกรรมเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์และมุมมองที่หลากหลายที่ไม่สามารถหาได้จากการเรียนในห้องเรียนเท่านั้น

2. รู้จักแบ่งเวลา
การจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ควรแบ่งเวลาให้สมดุลระหว่างการเรียน การทำการบ้าน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ การมีตารางเวลาช่วยให้สามารถทำงานให้เสร็จตามกำหนด และยังมีเวลาเหลือสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ชอบ

3. เรียนรู้การจดบันทึกอย่างมีประสิทธิภาพ
การจดเลคเชอร์เป็นวิธีการเรียนรู้ที่สำคัญในมหาวิทยาลัย ควรฝึกการจดเลคเชอร์ให้มีประสิทธิภาพ โดยการจดเฉพาะประเด็นสำคัญ และใช้สัญลักษณ์หรือตัวย่อต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การจดบันทึกเป็นไปอย่างรวดเร็วและกระชับ

4. เปิดรับข่าวสาร
ติดตามข่าวสารจากมหาวิทยาลัย ทั้งประกาศจากทางมหาวิทยาลัยเองและข้อมูลจากองค์กรภายนอก เช่น ทุนการศึกษา โครงการแลกเปลี่ยน และกิจกรรมที่น่าสนใจ การติดตามข่าวสารเหล่านี้จะช่วยให้ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ที่มหาวิทยาลัยมีให้

5. ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยให้สนุกเต็มที่
การเรียนในมหาวิทยาลัยอาจทำให้เกิดความเครียด การเข้าร่วมกิจกรรมสนุก ๆ เช่น การเข้าร่วมชมรม การออกค่ายอาสา หรือการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ จะช่วยผ่อนคลายความเครียดและทำให้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมีสีสันและความสนุกมากขึ้น

ตัวอย่างกิจกรรมและโอกาสในมหาวิทยาลัย:

  • ชมรมและสโมสร: ชมรมดนตรี กีฬา ถ่ายภาพ การแสดง เป็นต้น
  • กิจกรรมอาสาสมัคร: โครงการช่วยเหลือชุมชน การจัดค่ายอาสา หรือการทำกิจกรรมกับองค์กรไม่แสวงหากำไร
  • โครงการแลกเปลี่ยน: โอกาสในการไปเรียนหรือฝึกงานในต่างประเทศ ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย
  • การประกวดและแข่งขัน: การแข่งขันทางวิชาการ การประกวดนวัตกรรม หรือการแข่งขันด้านกีฬาและศิลปะ
  • ฝึกงานและงานพาร์ทไทม์: โอกาสในการฝึกงานหรือทำงานพาร์ทไทม์ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เรียน เพื่อเพิ่มประสบการณ์การทำงานจริง

การใช้เวลาทุกนาทีในมหาวิทยาลัยอย่างคุ้มค่า จะช่วยให้ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

Exit mobile version