บัวชมพู พวงสิน
อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์สายสามัญ ปี 56 จากจังหวัดชลบุรี

ช่วงเวลาในวัยเด็กของบัวชมพู

ด้วยฐานะทางบ้านยากจนมาก พ่อกับแม่ของเธอเลิกรากันตอนอายุได้เพียง 4 ขวบ เธอยังมีน้องสาวอีกสองคน มีพ่อป่วยพิการทางด้านสมองมาตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้ต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับปู่ย่าที่จังหวัดชลบุรี ด้วยความลำบากทางฐานะครอบครัวทำให้มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดว่า… “ย่าไม่มีปัญญาที่จะส่งให้เรียนต่อหรอกนะ จบแค่ ม.3 ก็พอเถอะ” คำพูดเหล่านี้ทำให้บัวชมพูเสียความรู้สึกอย่างมาก เพราะเธอรักที่จะเรียน อยากได้ความรู้ อยากไปสนุกกับเพื่อน ๆ และอยากจะทำกิจกรรมมากมายที่โรงเรียน

ช่วงเวลาที่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิยุวพัฒน์

บัวชมพูเล่าว่า… เมื่อตอนเรียนอยู่ชั้น ป.6 คุณครูก็ได้มาแจ้งเรื่องทุนการศึกษาของมูลนิธิยุวพัฒน์ เป็นทุนการศึกษาเรียนต่อในระดับชั้น ม. 1 – ม. 6 ตอนนั้นเธอรู้สึกดีใจมากที่มีทุนแบบนี้เข้ามาในโรงเรียนชนบทที่ตัวเองเรียนอยู่ แต่ด้วยเงื่อนไขการขอทุนในปีนั้นคุณครูแต่ละโรงเรียนจะต้องทำการคัดเลือกนักเรียน 1 คน ในการสมัครขอทุน ส่งไปให้เขตพื้นที่การศึกษา คัดกรองคุณสมบัตินักเรียนที่ขอทุนร่วมกับโรงเรียนอื่น ๆ  ในเขตพื้นที่เดียวกันอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะส่งให้ทางมูลนิธิยุวพัฒน์คัดเลือก โดยคุณครูจะให้เพื่อน ๆ ในห้องช่วยกันโหวตว่าระหว่างเธอกับเพื่อนนักเรียนอีกหนึ่งคนใครจะได้ส่งใบสมัครขอทุน และบัวชมพูก็คือคนที่เพื่อน ๆ ในห้องโหวตเลือก ตอนนั้นเธอดีใจมากที่ได้รับการโหวตให้สมัครขอทุนในครั้งนั้น เพราะการขอทุนการศึกษาเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอได้เรียนต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้นตามที่ตั้งใจเอาไว้

บัวชมพูเฝ้ารอและก็ลุ้นอยู่ตลอดว่า…ตัวเองจะได้รับโอกาสนั้นไหม? และไม่นานก็มีหนังสือจากทางมูลนิธิฯ แจ้งมาว่าเธอได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเรียนทุนยุวพัฒน์ เธอดีใจมากตอนที่ได้เห็นจดหมายฉบับนั้น เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่รู้ว่าดีใจมาก ๆ เพราะเธอได้รับโอกาสนั้นแล้ว โอกาสที่จะทำให้เธอได้เรียนต่อตามที่หวังไว้

ในปัจจุบันบัวชมพูสิ้นสุดการรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิยุวพัฒน์ไปแล้ว และตอนนี้กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ได้รับทุน เธอขอบคุณมูลนิธิฯ มากๆ เพราะเงินทุนทางการศึกษาและโอกาสที่ทางมูลนิธิยุวพัฒน์มอบให้ในวันนั้น ทั้งเรื่องการดูแลเอาใจใส่ด้วยการโทรมาพูดคุย ให้กำลังใจ ให้พลังใจ และส่งความคิดด้านบวกให้เธอมาโดยตลอด โอกาสที่ได้รับเปลี่ยนชีวิตของเธออย่างมากมาย ทำให้เธอได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น บัวชมพูสามารถแบ่งเบาภาระของปู่กับย่าเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าขนมไปโรงเรียนได้อย่างมาก เธอสามารถยกระดับชีวิตของตัวเองขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง เพราะมีโอกาสทางการศึกษาที่เธอได้รับในวันนั้น

ถึง… ผู้ใหญ่ใจดีที่มอบโอกาสให้

บัวชมพูกล่าวว่า… ขอขอบคุณทางมูลนิธิยุวพัฒน์เป็นอย่างมากที่มอบโอกาสทางการศึกษาให้ ทำให้เห็นอนาคต ทำให้มีชีวิตที่สดใสและสมบูรณ์แบบ และทำให้เด็กอย่างเธอมีความรู้ไปต่อยอดเพื่ออนาคตของตัวเองได้ ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะทุกท่านที่มอบโอกาสให้เธอ ทำให้ได้เรียนต่อตามที่ตัวเองหวังไว้ ทำให้เธอได้รับโอกาสมากมายจากการเรียน ต่อจากนี้เธอจะตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี ขยัน อดทน เพื่อตอบแทนความมีเมตตาของทุกท่านที่มีให้มาโดยตลอด

ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ได้รับทุน ขอบคุณมูลนิธิฯ มากๆ เพราะเงินทุนทางการศึกษาและโอกาสที่มอบให้ฉันในวันนั้น ทั้งเรื่องการดูแลเอาใจใส่ด้วยการโทรมาพูดคุยให้กำลังใจให้พลัง และส่งความคิดด้านบวกกับฉันมาโดยตลอด