![ทุนสายอาชีพ – อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์-01](https://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2021/05/ทุนสายอาชีพ-อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์-01.png)
“สายอาชีพ” หรือ ระบบการเรียน “อาชีวศึกษา” คืออีกหนึ่งสายการเรียนที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะที่ตรงกับงานหรืออาชีพที่อยากทำ จบไปแล้วหางานได้เร็วและมีงานรองรับเยอะ จึงเป็นเหตุผลที่เด็กขาดโอกาสหลายคนเลือกเรียน เพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าสนใจในทักษะอาชีพใด และแน่นอน คือ อยากรีบหารายได้เพื่อมาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของครอบครัวโดยเร็ว
วันนี้จึงขอพาไปทำความรู้จักกับ 3 อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพของมูลนิธิยุวพัฒน์ พวกเขามีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเลือกเรียนสายอาชีพก็คือ ได้ความรู้และประสบการณ์ มีรายได้ระหว่างเรียน มีทักษะวิชาชีพติดตัว สามารถเลือกเรียนได้หลากหลาย ได้รับความนิยมจากตลาดแรงงาน สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และความต้องการตลาดแรงงานในประเทศจำนวนมากที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนผู้จบออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการ
และตอนที่คุณกำลังอ่านบรรทัดนี้ น้องทั้ง 3 คน
กำลังมุ่งมั่นทำงานเพื่อทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จอยู่
![อดีตนักเรียนทุน-02](https://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2021/05/อดีตนักเรียนทุน-02.png)
น้องศิริพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช.3 ประเภทวิชาคหกรรม สาขาอาหารและโภชนาการ จังหวัดตรัง เธอฝันไว้ว่าต้องมี “ร้านขนม” เล็กๆ สไตล์วินเทจ ชื่อ “ร้านอิ่มหมี” เป็นของตัวเอง
เธอเริ่มต้นฝันถึงร้านขนมตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจเรียนคหกรรม ในฝันนั้นความใหญ่โตของร้านไม่ได้มีผล เท่าไหร่นัก แค่ต้องการทำฝันให้สำเร็จนี่คือสิ่งที่ไม่อาจวัดค่าได้
“ความฝันนี้ต้องสำเร็จแน่นอน เพราะหนูเป็นคนทำอะไรแล้วทำจริง ถ้าไม่สำเร็จจะไม่หยุดทำ”
น้องศิริพรตัดสินใจเรียนคหกรรม เพราะความชอบในการทำอาหารตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าเธอเป็นแม่ครัวประจำบ้านเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงคิดว่าการเรียนสายอาชีพน่าจะทำให้ได้ทำงานเร็วขึ้น และได้เดินสู่เส้นทางอาชีพตนเองฝันเอาไว้
“หนูเลือกเรียนสายอาชีพเพราะจะได้ออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว และทำตามฝันของหนูเร็วๆ ข้อดีของสายอาชีพ คือ หนูได้ลงมือปฎิบัติจริง ได้ประสบการณ์ อย่างตอนฝึกงานหนูเลือกไปฝึกที่ร้านทำขนมซึ่งก็ได้นำความรู้ที่เรียนมาใช้ประโยชน์ได้จริงค่ะ”
ไม่แตกต่างจาก น้องเกศินี อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช.3 สาขาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจ วิชาเอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาในจังหวัดนครปฐม เลือกเรียนสายอาชีพเพราะทำให้มีโอกาสได้งานมากกว่า ทำให้รู้ว่าถนัดอะไร ชอบอะไร จบมาแล้วจะทำงานอะไร
“เรียนสายอาชีพได้ความรู้และได้ลงมือปฎิบัติ ได้ประสบการณ์ทำงานจริงๆ ที่สำคัญทำให้ได้ออกมาทำงานหาเงินเร็วขึ้น เพราะชีวิตของหนูเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่เรียน ป.6 ตอนเรียนหนูได้นำความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่เรียนมารับจ้างตกแต่งรูปถ่ายให้เพื่อนๆ เป็นการหารายได้เสริมระหว่างเรียนด้วย การทำงานจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหนูไปแล้ว ยิ่งจบมาได้งานทำเร็วยิ่งดีมากๆ”
ปัจจุบันน้องเกศินีทำงานที่โรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เธอก็ยังคิดหารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์ เพื่อเลี้ยงครอบครัวและทำตามฝันของตัวเองให้สำเร็จก็คือ “การได้เรียนต่อ”
“ชีวิตของหนูมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะทุนการศึกษาจากทุกคน หนูตั้งใจว่าจะใช้ความรู้ที่มีปรับใช้ในการทำงานและจะพยายามเก็บเงินให้ได้เยอะๆ เพราะต้องการเรียนต่อและในอนาคตจะต้องส่งเสียน้องคนเล็กเรียนหนังสือ อีกทั้งพ่อกับแม่ก็อายุมากขึ้น จึงจะต้องมีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่หากเจ็บไข้ได้ป่วย”
![อดีตนักเรียนทุน-03](https://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2021/05/อดีตนักเรียนทุน-03.png)
![อดีตนักเรียนทุน-01](https://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2021/05/อดีตนักเรียนทุน-01.png)
น้องสุภาพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช.3 วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร สาขาอุตสาหกรรม วิชาเอกเครื่องมือกลและซ่อมบำรุง ปัจจุบันทำงานบริษัทบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่ง
สาเหตุที่เลือกเรียนสายอาชีพ เพราะชอบงานช่างมาตั้งแต่เด็กๆ แถมยังมีคุณลุงเป็นแรงบันดาลใจอีกด้วย เพราะลุงของเธอทำงานเก่ง แม้จะเรียนมาน้อย แต่ก็มีความมุมานะ ความพยายามขวนขวาย เรียนรู้ด้วยตัวเอง จนมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าตามไซต์งานก่อสร้าง หาเงินมาเลี้ยงเธอและน้องๆ รวมทั้งครอบครัวด้วย เธอบอกว่าตอนเด็กๆ มักจะช่วยลุงต่อไฟ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นประจำ
“เลือกเรียนสายอาชีพเพราะทำให้รู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนว่าต้องการทำอาชีพอะไร ได้ทำงานจริง ทำงานไว เพราะหนูต้องดูแลครอบครัวและส่งน้องๆ เรียนหนังสือ อย่างงานที่หนูทำก็จำเป็นต้องใช้หลักในการคำนวณในการเขียนแบบบรรจุภัณฑ์เหมือนกัน”
ฝันของน้องนุ่นอาจดูธรรมดาแต่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอมาก นั่นคือ ต้องการทำงาน หาเงินได้เยอะๆ ซื้อบ้านให้ตากับยายอยู่ และส่งน้องเรียนสูงๆ ส่วนเธอด้วยใจรักและมีความมุ่งมั่นต่อวิชาชีพจะพยายามทุ่มเทอย่างหนักในการทำงาน เพื่อให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและมีอาชีพที่มั่นคงต่อไปในอนาคต
“หนูจะพัฒนาและหาความรู้เพื่อขยับจากเขียนแบบบรรจุภัณฑ์เป็นเขียนแบบโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น เช่น บ้าน หรืออาคารที่อยู่อาศัยซึ่งซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้หากเป็นไปได้จะเรียนต่อแน่นอน”
เรื่องราวของน้องๆ 3 คนซึ่งเป็นอดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ ถือเป็นตัวแทนของกลุ่มเด็กๆ ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ต้องการทำงานเร็ว และถ้ามีโอกาสก็จะเรียนต่อ แน่นอนว่าโอกาสที่พวกเขาได้รับในวันนั้นจนทำให้มีวันนี้ ก็มาจากการมีส่วนร่วมของทุกคนที่ช่วยสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาของมูลนิธิยุวพัฒน์ โดยการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชนขาดโอกาส ซึ่งในสายอาชีพ มูลนิธิฯ มอบทุนการศึกษาในระดับชั้น ปวช. 1 – ปวช. 3 ปัจจุบันมีนักเรียนทุนสายอาชีพในความดูแลประมาณ 2,000 คน จากจำนวนนักเรียนทุนทั้งหมด 8,288 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2564) โดยจะได้รับทุนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี เทอมละ 7,000 บาท หรือ เท่ากับปีละ 14,000 บาท โดยสาขาที่น้องๆ เรียนอยู่ อาทิ การบัญชี ช่างกล ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คหกรรม การเกษตร ฯลฯ
![—Pngtree—reading girl young smart child_3626829](https://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2021/02/—Pngtree—reading-girl-young-smart-child_3626829.png)
มีคำกล่าวว่า “เด็กในวันนี้คืออนาคตของประเทศไทยในวันหน้า แต่ก็ยังมีเด็กยากจนจำนวนมากกว่า 1.7 ล้านคน ที่ยังขาดโอกาสในชีวิต สะท้อนภาพใหญ่ของการศึกษาไทยว่า “ความเหลื่อมล้ำ” ไม่เคยหายไปไหน โดยเฉพาะวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่สร้างผลกระทบให้กับผู้คนทั่วโลก สำหรับประเทศไทยยิ่งทำให้ภาพความเหลื่อมล้ำชัดเจนขึ้น
เพื่อยืนยันว่าพลังการมีส่วนร่วมของทุกคนจะทำให้ฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ มากไปกว่านั้นยังยังช่วยพัฒนาประเทศด้วยแรงงานฝีมือสายอาชีพ มูลนิธิยุวพัฒน์ x เทใจ x head100 จึงขอชวน “คุณ” มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบโอกาสทางการศึกษาให้น้องอาชีวะได้เรียนจบสายอาชีพที่มีงานรองรับ หางานทำได้ทันที ในแคมเปญ “The Big Give การให้อาชีพ คือ การให้ที่ยิ่งใหญ่” ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา คลิก!