ICAP คืออะไร?
ICAP (Integrated Child – Centered Active Learning Project) คือโครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยึด “เด็กเป็นศูนย์กลาง” สร้างการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำในห้องเรียน โดยเน้นการออกแบบสภาพแวดล้อม กระบวนการเรียนรู้ และความสัมพันธ์ในห้องเรียนให้เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก ที่ไม่ใช่แค่การ “สอน” เด็ก แต่คือการ “ออกแบบพื้นที่ให้เด็กได้เล่น ได้คิด ได้ลงมือทำ และได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ” [รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม]
ห้องเรียนแบบ ICAP จะถูกพัฒนาเพื่อให้กระตุ้นพัฒนาการของเด็กได้จริง ด้วยการปรับ
– สภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อการเรียนรู้
– กิจวัตรประจำวัน ที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสบการณ์
– บทบาทของครู ให้เป็นผู้สนับสนุนแทนที่จะเป็นผู้สอนเพียงอย่างเดียว
การทำงานของ ICAP: มากกว่าการจัดห้องเรียนสวยๆ
การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการลงมือทำ โดยโครงการ ICAP จะทำงานร่วมกับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ผ่าน 4 ขั้นตอนหลัก
- เคลียร์พื้นที่ จัดระเบียบห้องเรียน ให้สะอาด ปลอดภัย มีสัดส่วนที่เหมาะกับเด็ก
- ร่วมออกแบบสภาพแวดล้อมและกระบวนการเรียนรู้ใหม่ ที่ส่งเสริมพัฒนาการ
- ลงมือสาธิต กระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่รับเด็กจนกลับบ้าน
- ให้ครูทดลองนำไปใช้จริง พร้อมทีมพี่เลี้ยงคอยสนับสนุน
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ห้องเรียนใหม่ที่มีชีวิต มีเสียงหัวเราะ และเต็มไปด้วยการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
มากกว่าห้องเรียน คือการเปลี่ยนอนาคตของเด็ก
ผลการดำเนินงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2559 – 2567) มีพื้นที่ร่วมพัฒนา 35 จังหวัด ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย

เครือข่ายร่วมพัฒนา ICAP
ภาคเหนือ 8 จังหวัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด
ภาคกลาง 13 จังหวัด
ภาคใต้ 6 จังหวัด
ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด
ในกลุ่มเด็กที่เริ่มต้นมีพัฒนาการล่าช้าถึง 35.7% หลังผ่านกระบวนการของโครงการ ICAP ไปแล้ว 12 สัปดาห์ พบว่า 87.9% ของเด็กกลุ่มนี้กลับมามีพัฒนาการสมวัย และสิ่งที่น่าชื่นใจคือ ห้องเรียนต้นแบบ ICAP ได้จุดประกายให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กข้างเคียงกว่า 30% ขยายผลต่อด้วยตนเอง โดยครูและชุมชนปรับห้องเรียนเอง ตามแนวทางที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริง แม้จะไม่ได้เข้าร่วมโครงการโดยตรง
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลลัพธ์ โดยร่วมมือกับภาครัฐและสถาบันวิชาการ ดังนี้
– EF ใช้แบบประเมิน EF จากมหาวิทยาลัยมหิดล
– DSPM ใช้แบบประเมิน DSPM จากกรมอนามัย
– แบบประเมินห้องเรียนใช้แบบประเมินที่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างโครงการ ICAP กับ กสศ.
– แบบประเมินแนวทางเรียนรู้โดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ใช้แบบประเมินที่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างโครงการ ICAP กับ กสศ
ผลลัพธ์การพัฒนาเด็กปฐมวัย ปี 2567
การประเมินเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) *ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567
กลุ่มเป้าหมาย : เด็กปฐมวัยที่ผ่านกระบวนนการ ICAP เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ จำนวน 1,067 คน

กราฟแสดงผลการประเมินพัฒนาการทางสมอง (EF หรือ Executive Functions)
โดยใช้ ค่า T-score ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ใช้เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศ
กลุ่มเป้าหมาย : เด็กปฐมวัยที่ผ่านกระบวนการ ICAP เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ จำนวน 488 คน
สรุปผลที่กราฟแสดง คือ
- เด็กปฐมวัยที่ผ่านกระบวนการ ICAP มีสัดส่วน คะแนนดีและดีมาก (T-score > 55) มากกว่าค่าเฉลี่ยประเทศอย่างชัดเจน
- ขณะเดียวกัน เด็กกลุ่มนี้มีสัดส่วนที่ได้คะแนน ต่ำกว่าเกณฑ์ (T-score < 45) มีจำนวนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ
- เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนทั่วไปของประเทศ พบว่าเด็กปฐมวัยที่ผ่านกระบวนการของ ICAP มีแนวโน้มด้านพัฒนาการทาง EF ดีกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กทั่วไป
หมายเหตุ: โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย ICAP ไม่เพียงส่งเสริม “พัฒนาการทางร่างกาย” ของเด็กเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนา ทักษะสมองส่วนหน้า (Executive Functions – EF) ซึ่งเป็นรากฐานของการเรียนรู้ การปรับตัว และการควบคุมอารมณ์ สะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการเรียนรู้ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ร่วมกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สามารถส่งผลต่อ EF ของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ICAP ไม่ใช่แค่เรื่องเด็ก แต่คือเรื่องของทุกคน
การพัฒนาเด็กปฐมวัย ไม่ใช่แค่เรื่องของพ่อแม่หรือครู แต่คือ ภารกิจของทั้งสังคม เพราะเด็กที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง ฉลาด และมีความสุข จะเป็นรากฐานของประเทศในอนาคต
จากผลการดำเนินงานของ ICAP ในการขยายพื้นที่เป้าหมาย (Model A : โดย ICAP – ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/โรงเรียน) ได้สร้างแรงกระเพื่อมทำให้เกิดการขยายผลในพื้นที่ด้วยตนเอง (Model B : โดยท้องถิ่น + คุณครู) ทั้งในระดับของนโยบายท้องถิ่นและในระดับที่คุณครูลงมือทำด้วยตนเอง โดยขยายไปยังห้องเรียน หรือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในพื้นที่ข้างเคียง จากการติดตามผลหลังลงพื้นที่มีโอกาสเกิดการขยายผลประมาณ 30% ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เปลี่ยนปฐมวัย พลิกประเทศ
ในประเทศไทยมีเด็กปฐมวัยกว่า 1.5 ล้านคน ถ้าเราเริ่มดูแลพวกเขาอย่างถูกต้องตั้งแต่วันนี้ เด็กกลุ่มนี้จะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ได้เริ่มจากนโยบายใหญ่โตเพียงอย่างเดียว แต่เริ่มได้จากห้องเรียนเด็กเล็กที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามช่วงวัย
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้!
คุณสามารถช่วยให้เด็กๆ ได้เริ่มต้นชีวิตที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็น…
ครู → ที่อยากสร้างห้องเรียนที่กระตุ้นพัฒนาการเด็ก
ท้องถิ่น → ที่อยากยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่
องค์กร → ที่อยากสนับสนุนห้องเรียนที่มีคุณภาพ
บุคคลทั่วไป → ที่อยากเห็นประเทศไทยดีกว่านี้
มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกัน!
เพราะอนาคตของประเทศ เริ่มจากวันนี้… ในห้องเรียนของเด็กเล็ก