![Untitled-2-01 (1)](http://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2019/03/Untitled-2-01-1.png)
ภาพบรรยากาศงาน Pen Pal Day อาสาผู้ให้กำลังใจ ผ่านการตอบจดหมายน้อง รุ่นที่ 4 เมื่อวันเสาร์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีอาสาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 25 คน และตอบจดหมายน้องๆ นักเรียนทุนได้ทั้งหมด 307 ฉบับ
เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมตอบจดหมายแล้ว อาสาทุกคนก็ได้มาร่วมกันถอดบทเรียนของการทำงานอาสาในครั้งนี้ ทุกๆ คนรู้สึกประทับใจมากๆ และนอกจากมาให้กำลังใจน้องๆ แล้ว พี่ๆ อาสาก็ได้กำลังใจจากจดหมายของน้องๆ กลับไปด้วยเช่นกัน
![OLYMPUS DIGITAL CAMERA](http://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2019/03/P2230110.jpg)
บทสัมภาษณ์อาสาตอบจดหมาย รุ่นที่ 4
ที่มาบอกเล่าความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการทำงานอาสาในครั้งนี้
ที่มาบอกเล่าความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการทำงานอาสาในครั้งนี้
ณัฐปพน รัตนตรัย (ต้น)
นักจิตวิทยา สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต
สนใจอะไรในกิจกรรม Pen Pal Day
ได้เปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับงานจิตอาสาครับ แล้วก็เจองานอาสาที่น่าจะตรงกับงานที่เราทำอยู่ เพราะเราสามารถใช้วิชาชีพของเราที่ทำอยู่ มาช่วยเหลือผู้อื่นได้ ก็เลยลองดูครับ
บอกเล่าความรู้สึกหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ก็รู้สึกดีใจครับ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากกว่า เราได้เชื่อมโยงเด็กที่เขาได้รับโอกาส และเขาก็ได้ใช้โอกาสนั้นได้เป็นประโยชน์ เราเองก็มีความสุขที่ได้มาตอบจดหมาย
บอกเล่าความประทับใจที่มาเข้าร่วมกิจกรรม Pen Pal Day ในครั้งนี้
ประทับใจหลายฉบับเลยครับ แต่ที่ประทับใจเป็นพิเศษก็เป็นจดหมายของน้องที่เขาเล่าว่าเคยยากจนมาก่อน แล้วเขาก็เล่าว่ามูลนิธิฯ ได้ช่วยเหลือเขาและครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น แล้วเขาก็ตั้งใจเรียนได้เกรดมากขึ้น แล้วเขาก็ทำกิจกรรมไปแข่งขันศิลปหัตถกรรมด้วย ทำให้เรานึกถึงภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมีทุกอย่างที่ดีขึ้น เราก็รู้สึกดีตามเขาไปด้วย
บอกเล่าความรู้สึกหลังจากอ่านจดหมายของน้องๆ หลายๆ ฉบับ
เราได้เรียนรู้ว่า “โอกาส” เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เราไม่ควรปล่อย “โอกาส” ให้เลยไป เพราะน้องๆ เขาก็ใช้ “โอกาส” ของเขาได้เป็นประโยชน์ ในส่วนของเราเองรู้สึกว่าได้ทำสิ่งดีๆ ได้อาหารใจให้กับตัวเอง และได้เติมอาหารใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย เราได้ยืนยันความเป็นมนุษย์ว่าเรายังมีคุณค่าอยู่ด้วยครับ
ฝากถึงทุกๆ คนที่อยากจะเริ่มต้นงานอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคม
ทำตามที่ตัวเองถนัด ที่ตัวเองสนใจ เพราะเราสามารถช่วยเหลือกันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในครั้งนี้ หรือว่ากิจกรรมอื่นๆ ในมูลนิธิยุวพัฒน์หรือกับที่อื่นๆ ก็ได้ อยากให้เริ่มต้นและลองดูครับ
![OLYMPUS DIGITAL CAMERA](http://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2019/03/P2230081.jpg)
สมปอง เทียนวันเพ็ญ (ปอง)
พยาบาลวิชาชีพ ดูแลงานผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยสูงอายุ
ทำไมถึงสนใจมาทำงานอาสาให้กำลังใจ ผ่านการตอบจดหมายน้องในครั้งนี้
เจอข่าวใน Facebook Page อ่านรายละเอียดแล้วน่าสนใจ เพราะโดยอาชีพของเราก็ทำงานอาสาอยู่แล้ว และก็เคยอาสาไปช่วยที่วัด ช่วยคนเจ็บป่วย พอมาเจองานอาสาตอบจดหมายช่วยเด็ก ซึ่งพวกเขากำลังจะเติบโตเป็นกำลังของชาติก็เลยลองสมัครดู เผื่อจะผ่านการคัดเลือก
ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นข่าวประชาสัมพันธ์รับสมัครอาสาตอบจดหมาย
เป็นโครงการที่ดีนะ พอเราได้อ่านรายละเอียดมีความรู้สึกว่า…ดีนะ…แต่ดูสถานที่จัดกิจกรรมแล้ว ไกลเหลือเกินจากที่เราอยู่ (คุณปองอยู่จังหวัดราชบุรี) แต่ก็ขอลองสมัครดูก่อน ถ้ามูลนิธิฯ เลือกเรา แสดงว่าเรามีความสามารถ เพราะฉะนั้นเราต้องมา ตั้งใจไว้แบบนี้เลย พอวันที่ประกาศผลการคัดเลือกและเราได้รับอีเมล…พี่ดีใจมากรีบตอบกลับทันทีเลย
ระยะทางจากราชบุรีถึงกรุงเทพเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจสมัครหรือเปล่า
เนื่องจากโครงการนี้เป็นงานที่เราได้ช่วยคนอื่น นอกเหนือจากคนเจ็บป่วย อย่างที่บอกเลยว่า..เด็กๆ เขาต้องเจริญเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ของประเทศเรา โครงการที่มูลนิธิฯ ทำ ก็เห็นความสำคัญตรงนี้อยู่แล้ว เราเองเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ถึงจะอยู่ไกลกรุงเทพก็แค่เสียสละนั่งรถมาเอง ขอให้เราได้ช่วยถึงได้ไม่มากก็ตาม
ความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอาสา
ขอเล่าความรู้สึกตั้งแต่เจ้าหน้าที่โทรมาหาเลย แนะนำว่าเราต้องเดินทางยังไง และให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แนะนำการเตรียมตัว เช่น สถานที่จัดกิจกรรมอากาศจะเย็นนะ เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย รู้สึกอุ่นใจถึงแม้จะมาไกลแต่เรามาถูกทางแล้ว ให้เรามาร่วมกิจกรรมกับคนดีๆ มีน้ำใจแบบนี้ค่ะ พอหลังทำกิจกรรมแล้วดีใจมาก มีความสุขมาก แล้วก็ถ้ามีโอกาสในครั้งถัดไปและเราผ่านอีก จะมาทันทีไม่รีรอเลย เพราะว่าเราได้ช่วยส่งกำลังใจให้น้องที่ฐานะของเขาไม่สมบูรณ์แบบแต่เขาโชคดีได้รับทุนแล้ว เราแค่ช่วยส่งเสริม เป็นกำลังใจให้เขา เพื่อให้เขาเจริญเติบโตไปในทางที่ถูก ที่ดีค่ะ
ความประทับใจอะไรบ้าง? ที่อ่านจดหมายของน้องๆ
อย่างแรกเราได้ใช้ความรู้ ความสามารถ เพราะเราเป็นพยาบาลเราก็เรียนด้านจิตวิทยามาอยู่แล้ว เราก็ได้ใช้สกิลจากการดูแลคนไข้มาดูแลเด็ก ซึ่งไม่ได้ป่วย แต่เขาอาจจะมีปัญหาทางครอบครัว ทางด้านการเงิน อะไรแบบนี้ เราก็ได้ใช้ความรู้ ความสามารถจากอาชีพของเราได้กว้างขึ้น ในอีกวัยนึง แล้วก็เป็นประโยชน์กับสังคมเพราะได้ทำงานร่วมกับยุวพัฒน์ แล้วก็ประทับใจเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และน้องๆ จิตอาสาทุกคน ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้เลยว่ามีอาชีพอะไรบ้าง มีอาสาที่เป็นดีไซเนอร์ บางคนมาจากทำเนียบรัฐบาล น้องๆ ต่างศาสนาที่ทำงานอยู่ธนาคารอิสลาม อีกหลากหลายอาชีพ น่ารักมากๆ ทุกคนมีจิตอาสาที่ดีอยากให้มูลนิธิฯ ให้ทุนกับเด็กๆ อีกเยอะๆ ถ้าพี่รวยๆ พี่จะมามอบทุนให้ด้วย
ฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำงานอาสาสมัคร
ถ้าเจองานอาสาสมัคร สมัครเถอะค่ะ อย่างน้อยถึงเราจะเป็นจุดเล็กๆ พอเราได้เริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ก็อย่ากลัว เพราะตอนแรกพี่ก็ไม่มั่นใจ เพราะว่าเราอยู่ไกลและก็มีความลังเล แต่พอน้องมากระตุ้นว่า ลองสิพี่! พอตัดสินใจลองแล้วเราก็ได้มาทำ และรู้สึกว่า เราเป็นคนที่มีประโยชน์ ความรู้ความสามารถเราไม่ได้ถูกเก็บไว้ใช้แค่กับตัวเราเองหรือคนในครอบครัว เราได้กระจายไปสู่คนอื่นด้วยค่ะ ขอบคุณมูลนิธิยุวพัฒน์และน้องๆ เจ้าหน้าที่ทุกๆ คนที่ให้โอกาสดีๆ แบบนี้
![OLYMPUS DIGITAL CAMERA](http://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2019/03/P2230182.jpg)
พลอยนภัส เกณฑ์ธนพงษ์ (อุ้ม) อดีตนักเรียนทุน รุ่นที่ 1
Clear Count Area บริษัทโรงสีเอกไรท์
ความรู้สึกที่อยากเข้าร่วมกิจกรรมอาสาตอบจดหมาย
ด้วยความที่พื้นฐานเรา คือ เด็กขาดโอกาสมาก่อน เราคิดเสมอว่า เราได้โอกาสมาจากตรงนี้ สิ่งที่เรามีทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากที่นี่ อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือ เราพอที่จะคืนกลับให้สังคมได้ในวันที่เราพอมีแล้ว เราก็ควรจะทำ ก็เลยสมัครเข้าร่วมเป็นอาสาด้วย
หลังทำกิจกรรมอาสาตอบจดหมายแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง
ก็โอเคนะ พอได้อ่านจดหมายน้องเราได้รับรู้ว่าเขาตั้งใจเขียนมาเล่าเรื่องของเขา และเราก็รู้ด้วยว่าจดหมายน้องๆ เข้ามาเยอะ เพราะนักเรียนทุนก็เพิ่มขึ้นทุกปี อุ้มก็เลยคิดว่า เราสามารถช่วยเหลือได้ก็อยากช่วย มีจดหมายฉบับหนึ่งน้องเป็นผู้ชาย เขียนว่าวันนี้ทำอะไร วันนี้ไปไหน อะไรแบบนี้ เราเข้าใจนะว่าเขาไม่ถนัดเขียน แต่ยังดีนะเขาเขียนมาเล่าเรื่องราวประจำวันของตัวเอง
ประทับใจจดหมายฉบับไหนเป็นพิเศษมั้ย
ยังไม่มีจดหมายฉบับไหนที่ประทับใจมาก แต่อ่านจดหมายทุกฉบับแล้วเรารับรู้ถึงเรื่องราวของน้องทุกคนที่เขาขาดโอกาสเหมือนกับเราในตอนนั้น เพราะเราก็เคยเป็นเด็กขาดโอกาสมาก่อน น้องเขาเขียนมาขอบคุณที่ให้ทุน ทำให้เขาได้เรียน เป็นเรื่องดีๆ นะ ที่ให้เขาเขียนจดหมายมาเล่า เป็นอีกทางหนึ่งที่ฝึกให้เขาได้รู้จักการเขียน การสื่อสารแบบนี้บ้าง เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีมันรวดเร็ว ถ้าเกิดว่าเขาไปเจอสิ่งที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป
ฝากถึงคนที่อยากเริ่มทำงานอาสา
การที่ทำงานจิตอาสานะคะ เราไม่จำเป็นต้องใช้เงินใช้แรงอะไรมากมายเลย เพียงแค่ดูสิ่งที่เราถนัดหรือสิ่งที่เราชอบ เราอยากทำ เราลองหาข้อมูลและปรึกษากับคนที่เขาจัดกิจกรรมดูนะคะว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง บางทีเราไม่สะดวกเดินทางไปปลูกป่า ทาสี ไปต่างจังหวัด ขึ้นเขา ขึ้นดอย เราก็เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แค่เรามีจิตใจที่อยากจะช่วยคนอื่น เราก็เป็นจิตอาสาที่ดีได้ และเราก็ได้มาอยู่กับคนที่มีจิตอาสาเหมือนเรา เพราะทุกคนเสียสละเวลามาแล้ว ได้มาเจอเพื่อนๆ ที่มีทัศนคติเหมือนเรา ถึงแม้เราจะมาคนเดียวแต่พอได้มาอยู่รวมกัน อุ้มว่าก็ช่วยสังคมได้ส่วนหนึ่งแล้ว มาช่วยกันเติมสีสันให้สังคม ช่วยกันหยดสีเล็กๆ ของเราวันนี้ให้ค่อยๆ แผ่ขยายออกไป จากสังคมสีเทาหรือสีดำก็จะสดใสมากขึ้น อย่างอาสาตอบจดหมายอย่างน้อยๆ เราได้วางรากฐานที่ดีให้น้อง น้องๆ เขาก็ได้รับสิ่งดีๆ เชื่อว่าเขาจะต้องส่งต่อความรู้สึกดีๆ ความดีของเขาไปยังอีกคน ต่อกันไปเรื่อยๆ อุ้มเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้นค่ะ
![OLYMPUS DIGITAL CAMERA](http://www.yuvabadhanafoundation.org/wp-content/uploads/2019/03/P2230161.jpg)
มูลนิธิฯ ขอขอบคุณอาสาทุกๆ ท่านที่สละเวลามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
และขอบคุณทุกๆ คำแนะนำที่เหล่าอาสาแนะนำมา
เพื่อช่วยให้มูลนิธิฯ นำไปพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขในงานครั้งต่อๆ ไป
และขอบคุณทุกๆ คำแนะนำที่เหล่าอาสาแนะนำมา
เพื่อช่วยให้มูลนิธิฯ นำไปพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขในงานครั้งต่อๆ ไป