“หนูไม่เคยมีความคิด ที่จะไม่เรียนต่อเลยค่ะ”
น้องข้าวฟ่าง วรินทร นักเรียนทุนยุวพัฒน์สายอาชีพ จากจังหวัดน่าน กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ปวช.3 สาขาบัญชี ด้วยวัยเพียง 18 ปี ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความรับผิดชอบ และความสามารถในการจัดการชีวิตได้อย่างน่าประทับใจ
ข้าวฟ่างอาศัยอยู่กับยายวัย 82 ปี และลุง ในขณะที่แม่อยู่ห่างออกไปแต่ยังคงให้การสนับสนุนและห่วงใยอย่างมาก ด้วยฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีนัก ข้าวฟ่างตัดสินใจขอทุนการศึกษาจาก “มูลนิธิยุวพัฒน์” ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ซึ่งช่วยให้มีเงินใช้จ่ายส่วนตัวและสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น
“ขอทุนการศึกษาช่วงเรียน ม.1 ทำให้ชีวิตหนูดีขึ้นมากเลย เพราะได้เเบ่งเบาภาระของเเม่ได้เยอะมาก และยังมีเงินใช้จ่ายในครอบครัว”
เมื่อเรียนจบชั้น ม.3 เธอเลือกเรียนต่อ “สายอาชีพ” ด้วยความเชื่อมั่นว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่าสายสามัญ เธอมองว่าการเรียนสายอาชีพช่วยให้สามารถโฟกัสกับทักษะเฉพาะทางได้มากขึ้น โดยเฉพาะในสาขาบัญชีที่เลือก เนื่องจากเห็นโอกาสในการต่อยอดไปสู่อาชีพที่หลากหลายในอนาคต เช่น นักบัญชี หรือการทำงานในด้านการตลาด
แม้ว่าการเรียน “บัญชี” จะดูเป็นเรื่องท้าทายสำหรับหลายคน แต่เธอกลับมองว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากมีพื้นฐานและความเข้าใจที่ดี ได้เรียนรู้การจัดการตัวเลข การทำตารางรายรับรายจ่ายของกิจการ ซึ่งช่วยให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจและเห็นโอกาสในการพัฒนาตนเองต่อไป
การเรียนบัญชีไม่เพียงแต่ต้องใช้ทักษะการคำนวณเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจในงานที่ทำ ความจำที่ดีในการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ เช่น การคำนวณภาษี การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการเรียนรู้สูตรคำนวณต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังต้องมีการคิดอย่างเป็นระบบ ความรอบคอบ
“เกมเมอร์” และ “นักบัญชี” สองคำที่ดูเหมือนจะอยู่คนละขั้ว แต่ข้าวฟ่างแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการหารายได้ด้วยตนเอง เธอเล่าว่า เริ่มต้นด้วยการขายไอดีเกม Identity V ซึ่งเป็นเกมที่เล่นมาตั้งแต่ ปวช. ปี 1 การขายไอดีเกมนี้สร้างรายได้ให้เธอถึง 1,700 บาท ซึ่งมากกว่าที่คิด
“ไม่ถึงกับชอบเล่นเกม แต่เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับเรา หนูเคยขายไอดีเกมได้ถึง 1,700 บาท ก็ไม่คิดเลยว่าจะขายได้ เหมือนเปิดโลกใหม่ว่าสิ่งที่เราชอบก็สามารถสร้างรายได้ได้จริงๆ”
ข้าวฟ่างได้ค้นพบโอกาสใหม่ในการ “รับจ้างเล่นเกมออนไลน์” ซึ่งเป็นงานที่ทำมาได้ประมาณ 3 เดือน โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมในร้านที่รับงานต่อมาอีกทอดหนึ่ง โดยสามารถรับงานได้สูงสุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ได้รับค่าตอบแทนงานละ 70 บาทต่อครั้ง แม้จะไม่ใช่รายได้ที่มากมาย แต่ก็เป็นประสบการณ์และเป็นช่องทางในการหารายได้เสริมระหว่างเรียน
“อาจดูไม่มาก แต่สำหรับนักเรียน ก็เป็นรายได้เสริมเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ลดภาระครอบครัว และที่สำคัญสอนให้หนูรู้จักคุณค่าของเงิน เพราะกว่าจะได้เงินต้องใช้ความพยายามและเวลามากขึ้น แต่การเรียนต้องมาก่อนเสมอ หนูใช้เวลาช่วงเย็นหรือวันหยุดทำงานพิเศษ ส่วนเวลาเรียนก็ทุ่มเทเต็มที่”
แม้จะมีรายได้เสริม แต่ข้าวฟ่างไม่เคยละเลยการเรียน จัดสรรเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เวลาช่วงเย็นหรือวันหยุดในการทำงานพิเศษ เธอให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างมาก โดยมองว่าการเรียนเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตและไม่เคยคิดที่จะละทิ้งการเรียน
“หนูไม่เคยมีความคิดที่จะไม่เรียนต่อเลยค่ะ”
หลังจากเรียนจบชั้น ปวช. เธอวางแผนที่จะศึกษาต่อในระดับ ปวส. ที่วิทยาลัยเดิม เพื่อให้สามารถดูแลยายได้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังเปิดใจกับโอกาสในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในอนาคต เป้าหมายในอาชีพของข้าวฟ่าง คือการเป็นนักบัญชี แต่ก็เปิดกว้างสำหรับโอกาสอื่น ๆ เช่น การสอบเข้ารับราชการ โดยนำความรู้ด้านบัญชีไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานราชการ
เรื่องราวของข้าวฟ่างไม่ใช่แค่เรื่องการที่หารายได้จากการเล่นเกม แต่เป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่รู้จักสร้างโอกาสจากสิ่งที่ตนรัก พร้อมรักษาสมดุลระหว่างความฝันและความรับผิดชอบ ท่ามกลางโลกที่เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์กำลังเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงาน เรื่องราวของข้าวฟ่างก็น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เห็นว่า ความหลงใหลและทักษะในโลกดิจิทัลสามารถนำไปสู่โอกาสทางอาชีพเสริมได้